อยากลดกราม หน้าบานใครจะไปทน

สำหรับคนที่รักสวยรักงาม อยากมีใบหน้าที่เรียวสวยตามเทรนด์เกาหลี คงจะหนักใจไม่น้อยเวลาที่มองรูปหน้าของตัวเองบนกระจกแล้วต้องพบกับ “หน้าบานๆ  อยากลดกราม ใหญ่ๆ” ยิ่งถ้ามีใครมาล้อด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ความมั่นใจที่มียิ่งลดลงไปอีก

แล้วจะทำอย่างไรให้หน้าบานๆ  ใหญ่ๆ  กลับมาเรียวสวยแบบสาวเกาหลีที่เคยเห็นในละครซีรี่ย์ได้?

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าสาเหตุที่รูปหน้าหรือกรามของเราใหญ่นั้นเกิดจากอะไรได้บ้าง  ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมีสาเหตุทั่วไปดังต่อไปนี้

  1. ลักษณะทางพันธุกรรม ถือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เรามีกรามที่ใหญ่หรือใบหน้าที่เรียวเล็ก ลักษณะเหล่านี้เราจะได้รับถ่ายทอดจากพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายของเรามา  ซึ่งจะปรากฏบนรูปหน้าของเราอยู่แล้ว
  2. การเจริญเติบโตของกระดูก สำหรับบางคนที่มีการเจริญเติบโตของกระดูกในร่างกายที่ดีหรือมากเป็นพิเศษ อาจทำให้กระดูกในส่วนกรามมีขนาดใหญ่ด้วย
  3. มีกล้ามเนื้อหรือไขมันที่กราม บางคนอาจมีกล้ามเนื้อหรือไขมันบริเวณส่วนกรามอยู่มาก โดยกล้ามเนื้อที่กรามนั้นอาจเกิดจากการใช้งานกรามอย่างหนัก    เช่น  การเคี้ยวอาหารที่เคี้ยวยากบ่อยๆ  ร่างกายจึงสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาเพื่อรองรับการใช้งานอย่างหนัก  ส่วนไขมันนั้นเกิดจากการรับประทานอาหารมากเกินไป  อาหารส่วนเกินจึงแปรสภาพเป็นไขมันและนำไปเก็บไว้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย  รวมทั้งบริเวณกรามด้วยซึ่งเมื่อรวมกับกรามที่มีขนาดใหญ่ด้วยแล้วจะยิ่งทำให้รูปหน้าใหญ่ไปด้วย
  4. อาการอื่นๆ เช่น มีอาการบวมน้ำที่เกิดจากการรับประทานอาหาร  ทำให้หน้าบวมขึ้น  แลดูกรามใหญ่กว่าเดิม


หน้าเรียวได้ด้วยหลากหลายวิธี

ปัญหาหน้าบานกรามใหญ่ที่หลายคนอาจกำลังเป็นอยู่นั้นไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางแก้ไขเลย   เพราะในปัจจุบันนั้นมีวิธีการที่หลากหลายที่มาแก้ไขปัญหานี้  เพื่อให้หน้าที่บานใหญ่สามารถเรียวสวยได้ วิธีการแก้ไขนั้นมีทั้งแบบที่ง่าย  ทำได้ด้วยตัวเอง  ไปจนถึงวิธีที่ใช้นวัตกรรมความก้าวหน้าทางการแพทย์เข้ามาปรับรูปหน้าของเรา ฟังดูน่าสนใจขึ้นมาแล้วสิ  ไปดูกันว่ามีวิธีอะไรกันบ้าง  โดยจะขอไล่ไปตั้งแต่วิธีที่ง่ายไปจนถึงวิธีที่ซับซ้อนขึ้นเพื่อให้เข้าใจกันได้ง่ายๆ

1. ลดน้ำหนัก  สำหรับบางคนที่มีรูปหน้าใหญ่เพราะมีน้ำหนักตัวมาก  ทำให้ไขมันไปสะสมอยู่บริเวณกรามทำให้หน้าบานใหญ่  อาจแก้ไขได้ด้วยการลดน้ำหนักลงซึ่งจะช่วยให้หน้าเรียวลงได้  โดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ  5 หมู่  ในปริมาณที่เหมาะสม  ไม่มากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ  ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอประมาณ  3-5 ครั้ง / สัปดาห์  เฉลี่ยครั้งละ  45-60 นาที

2. บริหารกรามด้วยตนเอง เป็นวิธีการบริหารกรามอย่างง่ายๆ ซึ่งหากทำเป็นประจำจะช่วยให้รูปหน้ากระชับขึ้น ได้  ยกตัวอย่างท่าบริหารง่ายๆ   เช่น

– การอมลมไว้ที่กระพุ้งแก้ม  โดยทำทีละข้างสลับกันไปมา

– การทำปากจู๋ค้างไว้  โดยทำค้างไว้ประมาณ 5 วินาที

– การยิ้มทีละข้าง  โดยยกมุมปากให้มากที่สุด

3. การนวดหน้า เป็นวิธีการบริหารรูปหน้าอีกแบบหนึ่งโดยการใช้นิ้วและมือนวดหมุนวนบริเวณใบหน้าตามจุดต่างๆ เช่น  ขมับ  หน้าผาก  รอบดวงตา  มุมปาก  ซึ่งการนวดหน้านั้นจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า  กระตุ้นให้ผิวหน้ากระชับ  และช่วยให้รูปหน้าเรียวขึ้นได้  โดยควรทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง  แต่ต้องใช้เวลานานมากจึงจะเห็นผล

4. ครีมหน้าเรียว การใช้ครีมหน้าเรียวที่มีขายทั่วไปนั้นจะมีส่วนช่วยให้ผิวหน้ากระชับขึ้น แต่ผลที่ทำให้หน้าเรียวนั้นต้องขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล  เพราะปัญหาหน้าบานหรือกรามใหญ่นั้นมักเกิดจากกระดูก  การใช้ครีมหน้าเรียวแล้วได้ผลนั้นจึงมักเกิดกับผู้ที่หน้าบานใหญ่เนื่องจากไขมันมากกว่า  เนื่องจากครีมบางชนิดมีคุณสมบัติในการสลายไขมัน  และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง  ทำให้ลดอาหารบวมของใบหน้าลง  และแลดูหน้าเรียวลงได้

5. การทำ RF RF (Radio Frequency) เป็นคลื่นเสียงความถี่สูงระดับเดียวกับคลื่นวิทยุ  โดยหลักการทำงานของ  RF นั้นจะเป็นการส่งผ่านคลื่นเสียงเข้าไปกระตุ้นเซลล์ผิวหนังในระดับลึก  ช่วยลดความหย่อนคล้อยและริ้วรอยต่างๆ  ผิวกระชับและยืดหยุ่นมากขึ้น  และเมื่อทำอย่างต่อเนื่องจะช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวลงได้

6. การฉีดฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ (Filler) เป็นสารประกอบ Hyaluronic Acid ซึ่งพบได้ในผิวหนังของเราอยู่แล้ว  มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ  ทำให้ผิวอิ่มเอิบ  การฉีดฟิลเลอร์ให้หน้าเรียวเล้กนั้นจะเน้นฉีดบริเวณคางเพื่อช่วยเสริมให้คางเรียวยาวขึ้น  ซึ่งรูปหน้าหลังจากฉีดฟิลเลอร์แล้วจะเรียวเล็กลง  หลังจากฉีดไปแล้วจะคงสภาพได้  8-12 เดือน  ก่อนจะสลายไป

7. การฉีดโบท๊อกซ์ โบท็อกซ์ (Botox หรือ Botulinum Toxin) เป็นสารคลายกล้ามเนื้อชนิดที่ออกฤทธิ์ยาวนาน  6-8 เดือน  มีคุณสมบัติในการลดการมัดตัวของกล้ามเนื้อ  ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวลง  จึงนำมาใช้ในการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลงได้   โดยจะเน้นฉีดที่บริเวณกรามที่เป็นปัญหา  เมื่อฉีดแล้วกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวจะค่อยๆ คลายตัวลงภายใน  2-4 สัปดาห์  ส่งผลให้รูปหน้าค่อยๆ ดูเรียวเล็กขึ้น  และโบท๊อกซ์จะออกฤทธิ์เต็มที่จนเห็นผลได้อย่างชัดเจนภายใน  2-3 เดือน

8. การทำ BOTOX Lift  เป็นเทคนิคการฉีดโบท็อกซ์เพื่อยกกระชับใบหน้าให้ดูเต่งตึงเป็นธรรมชาติ  รูปหน้าแลดูเรียวเล็กลงพร้อมไปกับการยกกระชับขึ้นของผิวหน้า  เทคนิคนี้เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยบนใบหน้าไม่มากนัก  โดยจะฉีดเน้นที่กล้ามเนื้อบริเวณขอบของใบหน้า (แนวกราม) และหน้าผาก  ซึ่งผิวจะเริ่มยกกระชับขึ้นหลังจากฉีดไปได้ 7 วัน   รูปหน้าจะค่อยๆ เรียวขึ้น

9. การทำ Nefertiti Lift คำว่า Nefertiti นั้นมาจากชื่อของพระนางเนเฟอร์ติติ ราชินีของอาณาจักรอียิปต์โบราณที่ได้ชื่อว่าเป็นสตรีที่มีลำคอและรูปคางที่งดงามมาก  Nefertiti Lift เป็นเทคนิคการยกกระชับใบหน้าด้วย BOTOX  ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ปัญหาเหนียงห้อยย้อย  หรือผิวหน้าบริเวณคาง  ขากรรไกร  จนถึงลำคอไม่ตึงกระชับ  โดยการฉีดนั้นจะเน้นบริเวณขอบของใบหน้า  ซึ่งผิวบริเวณที่ฉีดจะเริ่มตึงกระชับขึ้น  บริเวณแนวของคางและกรอบของใบหน้าจะเข้ารูปมากขึ้น  เหนียงที่ย้อยเป็นปัญหาจะแลดูเรียบขึ้น  โดยผลของการรักษานั้นจะคงสภาพได้นาน  5-6 เดือน

10. การฉีดเมโสแฟต เมโสแฟต (Meso-Fat หรือ Meso Lipolysis)  เป็นสารประกอบวิตามินที่ฉีดเข้าไปในชั้นไขมันเพื่อเข้าไปสลายไขมันส่วนเกินที่มีการสะสมอยู่ให้สลายไป  โดยเมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะไปกระตุ้นให้ไขมันเกิดการหดตัว  และไขมันจะเริ่มสลายตัวลงไปจนรูปหน้าเรียวเล็กลง  เหมาะสำหรับสลายไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด  เช่น  แก้ม  โดยเฉพาะผู้ที่แก้มใหญ่หรือใบหน้ากลม  เพราะมีการสะสมไขมันบริเวณผิวหน้ามาก

11. การร้อยไหม เป็นการนำเส้นไหมสอดเข้าไปใต้ผิวหน้าเพื่อเข้าไปรั้งให้กระชับขึ้น ช่วยให้รูปหน้าเรียวเล็กลง  ปัจจุบันการร้อยไหมที่ช่วยให้รูปหน้าเรียวลงอย่างปลอดภัยและมีคุณภาพนั้นจะใช้ไหมละลาย PDO  ที่ใช้ในการทำศัลยกรรมหลอดเลือด  ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อของผิว  กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว    ผิวหน้ายกกระชับขึ้น  ใช้เวลาพักฟื้นน้อย  ทั้งนี้การร้อยไหมจะใช้ไหมจำนวนกี่เส้นและกรรมวิธีการร้อยเป็นอย่างไรนั้นต้องอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์

12. การทำศัลยกรรม ซึ่งจะมีทั้งการผ่าตัดกรามที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีกรามหรือกระดูกขากรรไกรขนาดใหญ่ ช่วยเปลี่ยนรูปหน้าให้เรียวได้อย่างที่ต้องการ  ซึ่งการผ่าตัดกรามนั้นสามารถทำได้ทั้งจากภายในช่องปากและภายนอกช่องปาก  ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์  มีการทำที่ไม่ซับซ้อนและใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน  และการทำศัลยกรรมเพื่อปรับแต่งกระดูกบริเวณโหนกแก้ม  เพื่อให้ช่วยให้โหนกแก้มที่ใหญ่ให้เรียวเล็กลงได้อีกด้วย

วิธีเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเบื้องต้นที่หยิบยกมาให้ดูเท่านั้น สำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าบาน ใหญ่ กรามโต ก็คงต้องเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองและปฏิบัติอย่างเหมาะสม หรือหากมีปัญหาไม่เข้าใจก็ควรเลือกเข้าไปปรึกษากับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ ‪อย่างแพทย์ที่นิติพลคลินิก รับปรึกษาปัญหาผิวปัญหารูปหน้าฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย รับรองว่าบริการประทับใจค่ะ

บทความโดย  นิติพล คลินิก

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง  บริการปรับรูปหน้า nitipon clinic

โบท็อกซ์ ฉีดหน้าเรียว ลดริ้วรอย ลดกราม v-shape นิติพลคลินิก

ฉีดหน้าเรียวแบบไม่ต้องเสี่ยงได้ที่นิติพลคลินิก