สำหรับคนที่อยากสวยหรืออยากหล่อ การดูแลตัวเองให้ดูดีเสมอเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้เลย และหากมีกำลังทรัพย์เพียงพอ การทำศัลยกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนรูปหน้าให้สวยหล่ออย่างที่ใจต้องการก็นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก แต่ในปัจจุบันนั้นหลายคนคงเคยได้ยินประสบการณ์แย่ๆ หลังการทำศัลยกรรม เช่น
- ทำหน้าอกแล้วเบี้ยวผิดรูปทรง เกิดพังผืดเกาะจนแข็งผิดธรรมชาติ ทำให้เจ็บ
- เสริมจมูกด้วยซิลิโคนแล้วเกิดการทะลุออกมาข้างนอก เป็นแผลขนาดใหญ่
- ทำปากกระจับแล้วกลับแข็งเป็นไต
ความเป็นจริงแล้วการทำศัลยกรรมนั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความสวยของเราเท่านั้น การจะรักษาความสวยที่เราสร้างขึ้นมาให้อยู่กับเราไปได้ตลอดโดยไม่เป็นอันตรายนั้นต่างหากที่เป็นเรื่องจำเป็น ดังนั้น การดูแลตัวเองภายหลังการทำศัลยกรรมจึงเป็นเรื่องที่เราต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะหากเราละเลยไม่ปฏิบัติตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด การศัลยกรรมเพื่อความสวยที่เราหวังไว้ก็จะสูญเปล่า เจ็บตัวโดยที่เราไม่ได้อะไรเลย และอาจส่งผลอันตรายต่อตัวเราอีกด้วย โดยวิธีดูแลตัวเองภายหลังการทำศัลยกรรมที่น่าสนใจนั้นมีดังต่อไปนี้
เสริมหน้าอก
ปัญหา
บริเวณที่เสริมหน้าอกเกิดพังผืดเกาะ ทำให้หน้าอกแข็งเกินไป และเกิดอาการเจ็บ จำเป็นต้องผ่าตัดแก้หน้าอกเพื่อเลาะพังผืดออก
การดูแล
หลังทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก ควรนวดบริเวณที่ทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้พังผืดเกาะจนแข็งเป็นไตดูไม่เป็นธรรมชาติ โดยสามารถเริ่มนวดได้ตั้งแต่หลังผ่าตัดเสร็จแล้วประมาณ 7 วัน และนวดต่อไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน จากนั้นให้นวดต่อไปเรื่อยๆ มากเท่าที่ต้องการ
จุดประสงค์ของการนวดหลังทำหน้าอก คือ เพื่อผลักให้ซิลิโคนที่เสริมหน้าอกเคลื่อนที่ให้มากที่สุด จะนวดแบบไหนท่าไหนก็ได้ แต่ต้องระวังในกรณีที่เนื้อหน้าอกเดิมเยอะอยู่แล้ว เพราะอาจจะนวดไม่ลึกถึงถุงซิลิโคน โดยอาจออกแรงกดให้ถึงซิลิโคนอีกสักหน่อย แต่ไม่ควรกดให้รู้สึกเจ็บมากเพราะแสดงว่ากดแรงไปจนถึงกระดูก
ระยะเวลา
ใช้เวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมงในการนวดแต่ละครั้ง จะนวดวันละกี่ครั้งก็ได้ แต่ต้องนวดทุกวัน
เสริมจมูก
ปัญหา
ซิลิโคนที่เสริมจมูกนั้นเกิดการทะลุ ทำให้มีแผลเปิดที่ปลายจมูก สร้างความเจ็บปวดอย่างมาก จมูกบิดเบี้ยวเสียรูป และหากเกิดการติดเชื้อจะยิ่งลุกลามมากขึ้น
การดูแล
- ประคบเย็นทันทีหลังการผ่าตัดเป็นเวลา 48 ชั่วโมง อย่างต่อเนื่อง เช่น ใช้เจลแพ็คหรือผ้าขนหนูที่เปียกหมาดๆ
- ห้ามแผลโดนน้ำอย่างน้อย 7 วัน (กรณีที่มีการผ่าตัดกระดูกอ่อนหลังหูด้วย ห้ามแผลหลังหูโดนน้ำ 7 วัน)
- หากมีเลือดหรือน้ำเหลืองซึมออกจากแผลที่ผ่าตัด ให้ใช้คัตตอนบัดที่สะอาดซับเบาๆ และแต้มยาทาแผลสดที่ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคเบาๆ เช่น เบตาดีน
- หลังการผ่าตัดในช่วงแรก ให้ยกศีรษะให้สูงไว้ก่อนเพื่อไม่ให้มีเลือดคั่งและรูปทรงจมูกบิดเบี้ยว
- รับประทานอาหารอ่อนๆ ในช่วง 3-4 วันแรก เพื่อหลีกเลี่ยงการขยับเขยื้อนของจมูก และงดอาหารรสเผ็ดที่กระตุ้นให้มีน้ำมูกไหล
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง และมาตรวจซ้ำตามนัด
ระยะเวลา
หลังผ่าตัดประมาณ 7-10 วัน เมื่อตัดไหมก็จะเริ่มเห็นรูปทรง ในช่วงนี้อาจยังมีอาการบวมอยู่จึงไม่ควรคาดเดารูปทรงของจมูกไปก่อนเพราะจะทำให้เกิดความวิตกกังวล ประมาณ 4-6 สัปดาห์จะเห็นรูปทรงที่ชัดเจนขึ้น
ปากกระจับ ปากนก ปากเรียว
ปัญหา
แผลไม่แห้งสนิท เกิดการมีการอักเสบติดเชื้อ ทำให้รูปทรงของปากไม่สวย และมีโอกาสเกิดแผลเป็นแบบนูนที่ปากได้
การดูแล
- หมั่นดูแลแผลผ่าตัดให้สะอาดอยู่เสมอเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ในช่วง 3 วันแรกหลังการผ่าตัด ให้ประคบเย็นบริเวณริมฝีปาก โดยอาจใช้น้ำแข็งห่อด้วยผ้าขนหนูที่สะอาด หรือใช้เป็นเจลเย็นก็ได้
- ในช่วง 3 วันแรก ควรนอนหมอนสูง 2-3 ใบ เพื่อลดอาการบวมของแผลผ่าตัดที่เกิดจากการคั่งของเลือด
- งดการเลียริมฝีปากเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ให้ใช้วาสลีนหรือลิปสติกมันแทน
- งดทานอาหารเผ็ดจัด ร้อนจัด อาหารหมักดอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่อย่างน้อย 1 เดือน
- แปรงฟันเบาๆ ไม่ให้กระทบกระเทือนแผล อาจใช้แปรงสีฟันสำหรับเด็กที่มีขนาดเล็ก คู่กับยาสีฟันที่มีรสอ่อนนุ่ม ลดอาการแสบแผล
- หลังจาก 2 สัปดาห์แล้ว ควรนวดที่แผลเบาๆ ครั้งละ 2 นาที เช้า-เย็น จะช่วยให้แผลนิ่มและเข้าที่ได้ดีขึ้น
ระยะเวลา
ประมาณ 7-10 วัน เมื่อตัดไหมแล้วจะเห็นรูปทรงของปากที่ชัดเจนขึ้น ปากจะเป็นกระจับได้รูปสวย
ทำตาสองชั้น
ปัญหา
ไหมที่เย็บแผลหลุด ทำความสะอาดแผลไม่ทั่วถึง แผลโดนน้ำและติดเชื้อ มีโอกาสที่แผลจะอักเสบและเน่าได้
การดูแล
- ประคบเย็นทันทีหลังจากผ่าตัดเสร็จเป็นเวลา 48 ชั่วโมง เน้นบริเวณหน้าผาก เปลือกตา ใต้ตา และสันจมูก
- ระวังไม่ให้แผลโดนน้ำอย่างน้อย 7 วัน
- นอนโดยหนุนศีรษะให้สูงเพื่อช่วยลดอาการบวมจากการคั่งของเลือด
- ฝึกลืมตาเป็นประจำเพื่อลดอาการบวมและช่วยให้ชั้นตาเข้าที่ โดยเฉพาะในกรณีการศัลยกรรมฉีกตาให้กว้าง
- หลีกเลี่ยงการใส่คอนแทคเลนส์อย่างน้อย 2-3 สัปดาห์
ระยะเวลา : 7-10 วันตัดไหมก็จะเข้าที่และเป็นตาสองชั้นอย่างสวยงาม
เสริมคาง
ปัญหา
แผลผ่าตัดที่คางติดเชื้อและเน่า ซิลิโคนทะลุ ถ้าลุกลามมากอาจจะต้องตัดเนื้อคางทิ้ง
การดูแล
- ประคบเย็นหลังผ่าตัดใน 48 ชั่วโมงแรก โดยทำอย่างเบามือ ให้คางรู้สึกชาแล้วพัก สามารถประคบได้เรื่อยๆ แต่ควรหลีกเลี่ยงการกดทับบริเวณซิลิโคนอย่างรุนแรงโดยตรง
- ใช้น้ำเกลือล้างบาดแผลอย่างนุ่มนวล จากนั้นจึงใช้เบตาดีนทาบริเวณบาดแผล
- หากมีการผ่าตัดในช่องปาก ควรรับประทานอาหารอ่อนๆ งดอาหารรสจัด สุกๆดิบๆ และอาหารหมักดอง เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ และควรบ้วนปากหลังรับประทานอาหารทุกครั้ง
- ในสัปดาห์แรกให้นอนให้ศีรษะสูงกว่าลำตัว เพื่อลดอาการคั่งของเลือดที่เป็นสาเหตุของอาการบวม
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง หากเป็นไหมตัด แพทย์จะนัดตัดไหมแผลใต้คางในวันที่ 7 ส่วนผ่าตัดแผลในช่องปากหมอจะใช้ไหมละลาย ซึ่งจะละลายไปเองใน 3 สัปดาห์ โดยในระหว่างนั้นไม่ควรใช้ลิ้นดุนแผล
ระยะเวลา
7-10 วันตัดไหมก็จะเข้าที่ และ 1 เดือนคางจะดูเรียวงามเนื้อที่คางจะรัดซิลิโคนสวยได้รูปแล้วล่ะค่ะ
บทความสงวนลิขสิทธิ์โดย นิติพลคลินิก