ผิวแพ้ง่าย

ผิวแพ้ง่าย รับมือยังไงดี เรามีคำตอบ!

ถ้าคุณมีอาการดังต่อไปนี้….

– เวลาปกติจะรู้สึกว่าผิวหน้าแห้ง  หยาบกร้านมาก

– แต่งหน้าทีไร  ใช้ครีมแบบไหน  ผิวหน้าก็มักจะเป็นผื่นคัน  ระคายเคืองเสมอ

– โดนแดดแค่ไม่นาน  ผิวหน้าก็แดง  แสบไปหมด

– พอถึงฤดูหนาว  อากาศเย็นๆ ผิวหน้าต้องลอกเป็นขุยมากกว่าคนอื่นทุกที

อาการเหล่านี้เป็นลักษณะของผู้ที่เป็น  “ผิวแพ้ง่าย”  ซึ่งเท่าที่เห็นจากอาการข้างต้นเหล่านี้  ย่อมไม่เป็นที่ปรารถนาสำหรับสาวๆ ที่รักสวยรักงามแน่ๆ พราะโดยปกติแล้วผิวชั้นนอกของเรานั้นจะคอยกักเก็บความชุ่มชื้น  เสมือนเป็นระบบที่ช่วยปกป้องผิวชั้นในให้ปลอดภัยจากสิ่งต่างๆ  ที่เป็นอันตรายต่อผิว  เช่น  ฝุ่นละออง  อากาศ  สารเคมี  เชื้อแบคทีเรีย  หรือการใช้เครื่องสำอาง  ซึ่งถ้าผิวภายนอกของเราเกิดความผิดปกติและไม่สามารถปกป้องผิวชั้นในได้  เมื่อผิวของเราไปกระทบกับสิ่งต่างๆ ที่เป็นอันตราย  ผิวของเราก็จะเกิดอาการแพ้ได้โดยง่าย  ที่เรียกกันว่า  “ผิวแพ้ง่าย” นั่นเอง

ทีนี้จะแต่งหน้าหรือใช้เครื่องสำอางอะไรก็ลำบาก  ทาครีมบำรุงผิวมากก็ไม่ได้  จะโดนแดดโดนลมแบบคนทั่วไปก็ไม่ค่อยจะไหว

แล้ว….ผิวแพ้ง่ายคืออะไร

ผิวแพ้ง่าย  (Allergy-Prone Skin)  เป็นลักษณะเฉพาะบุคคลที่เกิดจากความผิดปกติของชั้นผิวหนัง  เช่น  การสูญเสียความชุมชื้นของผิวที่มากกว่าปกติ  หรือความผิดปกติของไขมันบนผิวที่มีน้อยจนทำให้ผิวแห้ง  จึงส่งผลให้ความต้านทานต่อสิ่งต่างๆ ที่มาสัมผัสผิวลดลง  ผิวมีความไวต่อสิ่งที่มากระทบมากขึ้น  ทำให้เกิดอาการแพ้อยู่เสมอ  เช่น  ผิวลอกเป็นขุย  ระคายเคือง  เป็นผื่น  คัน  หรือผิวแสบแดง

ถ้าเช่นนั้น…มันมีทางรักษาให้หายได้ไหม??

อาการผิวแพ้ง่ายเป็นอาการที่รักษาไม่หายขาด  เพราะเป็นอาการที่เกิดจากความผิดปกติเฉพาะบุคคล  โดยมักจะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย  และสามารถเกิดได้ทั้งบริเวณผิวหน้าและผิวกาย  ซึ่งเมื่อมีอาการแพ้เกิดขึ้นแล้วก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะมีภูมิต้านทานมากน้อยแค่ไหน  หรืออาจมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ร่วมด้วยหรือไม่

อย่าสับสนระหว่าง “ผิวแพ้ง่าย” กับ “ผิวระคายเคือง”

บางคนที่ใช้ครีมบำรุงผิวหรือเครื่องสำอางแล้วเกิดอาการแพ้  มักจะเข้าใจไปเองว่า  “ฉันต้องมีอาการผิวแพ้ง่ายแน่ๆ” ความแตกต่างระหว่างอาการผิวแพ้ง่ายกับผิวระคายเคืองนั้น  ดูได้จากความลึกของชั้นผิวหนังที่แสดงอาการ  กล่าวคือ  อาการผิวแพ้ง่ายนั้นจะเกิดที่ผิวชั้นกลาง  ซึ่งอาจมีอาการบวมแดง  แสบร้อน   หรือแห้งลอก  แม้จะเช็ดเครื่องสำอางหรือครีมที่ทำให้แพ้ออกไปแล้ว  ก็ยังมีอาการแพ้เช่นเดิม  และอาการอาจลุกลามไปยังบริเวณข้างเคียงได้  ในบางรายที่มีอาการแพ้มากๆ อาจทำให้ผิวได้รับความเสียหาย  หรือถึงกับเป็นรอยไหม้ได้

ส่วนอาการระคายเคืองนั้นจะเกิดที่ผิวชั้นนอก  ซึ่งอาจมีอาการใกล้เคียงกับอาการของผิวแพ้ง่าย  แต่อาการจะไม่ลุกลามไปยังบริเวณใกล้เคียง  และจะทุเลาลงเมื่อเช็ดครีมบำรุงหรือเครื่องสำอางชนิดนั้นออกไปแล้ว นั่นคือ  ขึ้นอยู่กับว่าอาการแพ้นั้นเกิดขึ้นที่ผิวในชั้นไหน  และอาการมีความรุนแรงแค่ไหนด้วย

จะรับมืออย่างไร   ถ้ารู้ว่าตัวเองเป็นคนที่มีผิวแพ้ง่าย

ผิวแพ้ง่ายเป็นอาการที่รักษาไม่หายเพราะเป็นลักษณะเฉพาะของบุคคล  แต่เราก็สามารถอยู่ร่วมกับอาการเหล่านี้ได้  และทำให้ผิวของเราแข็งแรงได้เหมือนกับคนที่มีผิวปกติได้เช่นกัน  จึงไม่ต้องกังวลจนเกินไปว่า  “จะแต่งหน้าไม่ได้แล้ว”  หรือ  “ฉันคงออกไปโดนแดดไม่ได้”  เพราะเพียงแค่เราทำความเข้าใจกับอาการและปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสม ผิวที่แพ้ง่ายก็จะแข็งแรงได้ไม่ยาก

แล้วต้องทำอะไรบ้าง?

เริ่มจากปรับพฤติกรรมของตัวเองในหลายเรื่อง  เช่น  ล้างหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ  ประมาณ 3-4 ครั้ง  เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่อาจจะทำปฏิกิริยากับผิวหน้าของเราให้เกิดอาการแพ้ได้  โดยอาจล้างหน้าตอนเช้าและก่อนนอนด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบอ่อนโยนที่มีส่วนผสมของ   Salicylic acid  หรือ  BHA  และระหว่างวันให้ล้างด้วยน้ำสะอาด

สำหรับคนที่ชอบแต่งหน้า  การมีอาการผิวแพ้ง่ายคงกวนใจไม่น้อย  ดังนั้นเมื่อจะแต่งหน้าจึงต้องเลือกเครื่องสำอางที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย  ไม่ควรแต่งให้เยอะหรือหนาเกินไป  และควรแต่งให้น้อย  เพื่อป้องกันอาการแพ้หรือเครื่องสำอางตกค้างอันจะนำไปสู่อาการแพ้  โดยก่อนใช้เครื่องสำอางนั้น  ให้ทดสอบอาการแพ้ด้วยการนำไปทาเพียงเล็กน้อยที่หลังหูหรือแขนก่อน  หากมีอาการระคายเคืองก็ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์นั้นต่อ  และถ้าหากจะบำรุงผิวก็ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ส่วนผสมของ Moisturizer เพื่อเสริมความชุ่มชื้นให้กับผิว  และอย่าลืมว่าต้องทดสอบอาการแพ้ก่อนทุกครั้งเสมอ

ระมัดระวังผิวหน้าและผิวกายของตัวเองอยู่เสมอ  ทุกครั้งก่อนที่จะออกจากบ้านหรือออกกลางแจ้ง  ต้องทาครีมกันแดดก่อน  เพราะแสงแดดเป็นตัวการสำคัญของอาการผิวแพ้ง่าย  และอย่าใช้มือสัมผัสผิวหน้าบ่อยครั้ง  เพราะมือของเราอาจมีสิ่งสกปรกที่ทำให้ผิวหน้าเกิดอาการแพ้ได้  อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมี  ฝุ่นละออง  หรือสิ่งต่างๆ ที่คาดว่าจะทำให้เกิดอาการแพ้ก็จะดี

เลือกรับประทานอาหารที่มีสารอาหารบำรุงผิว  เช่น  ผัก  ผลไม้  และออกกำลังกายเป็นประจำประมาณ  30-45 นาที  เพื่อลดความมันบนผิวหน้าที่จะนำไปสู่การอุดตันของรูขุมขนและเกิดเป็นสิว  เพราะอาการผิวแพ้ง่ายสามารถทำให้เกิดสิวได้ง่ายด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้  คลินิกเสริมความงามในปัจจุบันได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านความงามเพื่อมาดูแลแก้ไขให้กับผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย  เพื่อช่วยให้ผิวที่แพ้ง่ายของแต่ละคนได้รับการเสริมสร้างให้แข็งแรงมากขึ้นเหมือนกันผู้ที่มีผิวปกติ  ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวแพ้ง่ายให้กลับมาดีขึ้น  แต่หากอาการผิวแพ้ง่ายเริ่มรุนแรงมากขึ้น  ควรปรึกษาแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป 

แล้วเรา…ก็จะหมดกังวลว่าผิวจะแพ้ง่ายอีกต่อไป

บทความโดย: นิติพลคลินิก