ทำความเข้าใจกับลักษณะของสีผิว ผิวขาว, ผิวขาวใส, ขาวใส, ขาวกระจ่างใส, อยากผิวขาว, อยากผิวขาวใส, อาหารผิวขาว
เคยสังเกตไหมว่า  ทำไมแต่ละคนถึงมีลักษณะของสีผิวที่แตกต่างกัน  บางคนมีสีผิวขาว  แต่บางคนกลับมีสีผิวคล้ำ  สิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างเหล่านี้ขึ้นเกิดจากมีปัจจัยต่างๆ  ทั้งในด้านของเชื้อชาติ  ลักษณะของกรรมพันธุ์  รวมไปถึงรูปแบบการดำเนินชีวิตของแต่ละคน  ที่ส่งผลแสดงออกมาให้เห็นผ่านสีของผิว
ผิวขาว, ผิวขาวใส, ขาวใส, ขาวกระจ่างใส, อยากผิวขาว, อยากผิวขาวใส, อาหารผิวขาว
ดังนั้นเราต้องเข้าใจก่อนว่า  สีผิวของเราที่เห็นว่าแตกต่างกันนั้นแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดด้วยกันนะ

  1. สีผิวที่ได้รับมาโดยกำเนิด (Constitutive Skin Color) เป็นลักษณะของสีผิวที่ถูกกำหนดด้วยลักษณะของกรรมพันธุ์หรือเชื้อชาติ  เช่น  คนในเอเชียมักจะมีผิวสีเหลือง  คนในยุโรปมักจะมีผิวสีขาว  คนในแอฟริกามักจะมีผิวสีดำ  โดยที่ความเข้มของสีผิวจะมากหรือน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับการสร้างเม็ดสีเมลานินที่แตกต่างกันไป

ถ้าเราอยากรู้ว่าสีผิวดั้งเดิมของเราเป็นสีอะไร  เราก็ลองสังเกตสีผิวในบริเวณที่ไม่ค่อยสัมผัสกับแสงแดดดูสิ  แล้วเราจะทราบว่าเดิมแล้วเรามีสีผิวเป็นอย่างไร  เช่น  ดูที่ท้อง  (ไม่ใช่ดูที่ไขมันนะ!! ^^)  หรือบริเวณขาด้านใน

  1. สีผิวที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม (Facultative Skin Color)  เป็นลักษณะของสีผิวที่ได้รับการกระตุ้นจากปัจจัยต่างๆ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม  เช่น  การได้รับรังสี UV จากแสงแดดทำให้สีผิวเข้มขึ้น  การตั้งครรภ์ที่ทำให้สีผิวบริเวณหัวนมเข้มขึ้น  หรือรอยสิวที่หายดีแล้วมักจะมีสีที่เข้มขึ้น (โดยเฉพาะถ้าเป็นสิวที่บีบเองอย่างไม่ถูกต้องนะ  จะยิ่งเป็นรอยสิวที่สีเข้มมากด้วย)

แสงแดดและเมลานิน  ปัจจัยที่มีผลต่อความขาวใสของผิว

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสีผิวในปัจจุบันนั้น  ตัวแปรสำคัญที่ทำให้ผิวที่เรารักจะขาวหรือคล้ำคงหนีไม่พ้น  “แสงแดด”  แน่นอน  เพราะแสงแดดจะมีรังสี UV ที่จะส่งผลทำลายเซลล์ผิวหนังของเราได้เลยเชียว  แต่ร่างกายของเราก็มีกระบวนการที่จะปกป้องรังสี UV ไว้อยู่แล้ว  พระเอกของเราคนนี้คือ  “เมลานิน” นั่นเอง

เมลานิน  (Melanin)  เป็นเม็ดสีที่จะพบได้ในเซลล์ผิวหนังบริเวณชั้นหนังกำพร้า  ซึ่งเจ้าเมลานินนี่เองที่จะคอยทำหน้าที่ปกป้องผิวจากรังสี UV ที่อยู่ในแสงแดด  โดยเมื่อเราสัมผัสกับแสงแดด  ผิวหนังของเราจะสร้างเม็ดสีเมลานินที่มีสีเข้มขึ้นเพื่อดูดซับรังสี UV เอาไว้ก่อนที่จะเข้าไปทำลายเซลล์ผิวหนังของเรา  ซึ่งเมลานินเหล่านี้เมื่อเวลาผ่านไปก็จะถูกผลักดันออกมาจนถึงผิวหนังชั้นบนและผลัดเซลล์ผิวออกไปตามธรรมชาติ

แต่ถ้าเมลานินเหล่านี้ไม่ได้ถูกผลัดเซลล์ผิวออกไปตามธรรมชาติ  ซึ่งอาจเกิดจากความผิดปกติบางอย่าง  เม็ดสีเมลานินที่มีสีเข้มเหล่านี้ก็จะตกค้างอยู่ที่ผิวหนังของเรา  ทำให้ผิวที่ขาวใสของเรากลายเป็นผิวหมองคล้ำอย่างที่เราเห็นกัน  ทำให้เราหมดความมั่นใจที่จะอวดผิวสวยใสให้ใครๆ ได้ชื่นชม

ควรปฏิบัติตัวอย่างไรถึงจะมีผิวที่ขาวใส

จากที่บอกไปว่าแสงแดดเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวขาวใสของเราหมองคล้ำลง  เราก็ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน  สวมเสื้อผ้าที่ไม่บางเกินไป  แต่ถ้าเราหลีกเลี่ยงไม่ได้   จำเป็นต้องสัมผัสกับแสงแดดจริงๆ  เช่น  มีนัดไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนๆ  ก็อย่าลืมทาครีมกันแดดด้วย แสงแดดกับการเลือกผลิตภัณฑ์กันแดด  โดยเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF เหมาะสมกับผิวของเรา  ครีมกันแดดขั้นเทพต้อนรับช่วง summer

การรับประทานอาหารและเครื่องดื่มก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นเดียวกัน   ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว  เช่น  ผักและผลไม้ที่มีวิตามิน C สูง   และควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 3 ลิตร   หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง  รวมถึงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ด้วยก็ยิ่งดี   สารพัดวิตามินใกล้ตัวช่วยบำรุงผิวพรรณ

หมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ  อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง  ครั้งละ 30-45 นาที  บางคนเกิดความสงสัยว่า  “การออกกำลังกายจะช่วยให้ผิวขาวได้อย่างไร?” นั่นก็เพราะว่าการออกกำลังกายจะช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดทำงานได้ดี  (ที่เรียกว่าเลือดสูบฉีด)  ทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งขึ้น  และยังทำให้ห่างไกลจากความอ้วนได้ด้วยนะ  และอย่าลืมนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ  อย่างน้อย  6-8 ชั่วโมงต่อวัน  จะช่วยให้ริ้วรอยก่อนวัยไม่เกิดขึ้นกับเราได้ง่ายๆ

สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือต้องทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ  ไม่เคร่งเครียดจนเกินไป  เพราะอารมณ์ที่ดีจะแสดงออกมาได้ที่ผิวของเรา  ถ้าเครียดหรืออารมณ์บูดบ่อยๆ  นอกจากจะทำให้ผิวหมองคล้ำ  เกิดริ้วรอยแล้ว  คนรอบข้างก็ไม่อยากเข้าใกล้ด้วยนะ  ยิ้มไว้ๆ

ถ้าผิวหมองคล้ำแล้วอยากจะมีผิวขาวใสต้องทำอย่างไร

ผิวที่หมองคล้ำนั้นอาจเกิดจากการผลัดเซลล์ผิวที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ  ดังนั้นแล้วการขัดผิวจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้หลุดออก  และวกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่ขาวใสมากขึ้น  ซึ่งผลิตภัณฑ์ขัดผิวขาวที่วางขายโดยทั่วไปนั้นก็ต้องเลือกที่เหมาะสมกับตนเอง  และแนะนำว่าควรขัดผิวหน้าประมาณ 1-2 ครั้ง / สัปดาห์  และขัดผิวหน้าประมาณ 1-2 ครั้ง / เดือน ก็พอแล้ว  ไม่ต้องขัดบ่อยเกินไป  และไม่ต้องขัดรุนแรง  เพราะจะทำให้เกิดแผลถลอก  แสบผิว  และอาจติดเชื้อ  (แทนที่จะขาวใส  กลับต้องมานั่งรักษาผิวถลอกก็คงไม่คุ้มนะ) กรอผิวขาวใส  ขจัดจุดด่างดำอย่างอ่อนโยน

ปัจจุบันนี้มีผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ช่วยดูแลความขาวใสให้กับผิว  ทั้งโฟมล้างหน้า  ครีมบำรุงผิว  ซึ่งจะมีส่วนผสมของสารที่มีส่วนกระตุ้นให้ผิวขาวขึ้นหรือสีผิวอ่อนลง  ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน  เช่น  Kojic , Vitamin A , Vitamin C , Arbutin , AHA  ซึ่งควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพของผิวแต่ละคน  และนอกจากนี้คลินิกเสริมความงามอีกเป็นจำนวนมากที่มีการดูแลด้านความขาวใสของผิว  ทั้งการทำทรีทเมนต์  การทำเลเซอร์  หรือการฉีดสารให้ความขาวกับผิว  ซึ่งผู้ที่สนใจก็ควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจทำ  เพื่อผิวที่ขาวใสและไม่เกิดผลข้างเคียง