ปรับรูปหน้าเรียว

ปรับรูปหน้าเรียว วิธีไหนดี

โบท็อกซ์ (Botulinum Toxin)

หากกล่าวถึงผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์เพื่อความงาม โบทูลินัมท็อกซิน (Botulinum Toxin) หรือที่เรียกกันติดปากว่า โบท็อกซ์ หลักการทำงานของ Botulinum Toxin นั้น คือการทำให้กล้ามเนื้อมัดที่ฉีดหรือบริเวณที่ฉีดเข้าไปเป็น “อัมพาต” เมื่อกล้ามเนื้อไม่สามารถที่จะขยับหรือหดตัวได้มันจึงคลายตัวออก ส่งผลให้ริ้วรอยย่นที่เกิดขึ้นจากการขยับหรือหดเกร็งของกล้ามเนื้อนั้นหายไปนั่นเอง รวมไปถึงใช้ในการปรับรูปหน้าเรียว โบท็อกซ์ นี้นับว่าเป็นตัวยาอันดับต้นๆ ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกไม่ว่าหญิงหรือชาย และเป็นหนึ่งในการศัลยกรรมความงามที่ไม่ใช่การผ่าตัดที่ได้รับความนิยมสูงสุดและมีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดด้วย

ในแต่ละปีมีการฉีดโบท็อกซ์ หลายสิบล้านครั้ง ไม่ว่าจะเพื่อคลายกล้ามเนื้อ หรือรักษาริ้วรอยอันเกิดจากการถูกทำลายโดยแสงแดด มลภาวะ และอายุที่เพิ่มขึ้น และเพราะความเป็นที่นิยมนั่นเอง ที่ทำให้ในปัจจุบันมีการผลิตออกมาหลากหลายยี่ห้อในประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ซึ่งคุณภาพก็จะแตกต่างกันไปตามแหล่งผลิตและราคา  แต่ที่น่ากังวลคือ สารโบทูลินัมท็อกซิน คุณภาพต่ำ ปลอม หรือเลียนแบบ ที่ใช้ในตลาดหรือตามคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน มีการจัดโปรราคาถูกๆมาล่อตาล่อใจผู้บริโภค โดยใช้ตัวยาปลอมหรือผงยาเกรดต่ำ  ที่ยิ่งน่าห่วงคือการขายในอินเตอร์เน็ตที่ให้ไปฉีดกันเอง  ซึ่งนอกจากจะไม่ได้ผลแล้วยังเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง เพราะของปลอมนั้นมีความเข้มข้นของโบทูลินัมท็อกซินที่ไม่แน่นอน อาจมีปริมาณน้อยกว่า หรือเกินกว่ามาตรฐาน

การฉีดโบท็อกซ์

การฉีดโบทูลินัมท็อกซิน ต้องคำนวณปริมาณตัวยาที่เหมาะสม เพราะการฉีดเกินเพียงเล็กน้อยก็เป็นอันตราย อาจส่งผลให้ใบหน้าผิดธรรมชาติได้  และถ้าได้รับโบท็อกซ์มากเกินไปก็อาจทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าเป็นอัมพาตชั่วคราว ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นไม่มีวิธีแก้ไข นอกจากรอให้ยาหมดฤทธิ์ไปเองระยะเวลา 4-6 เดือน ที่สำคัญ  การฉีดสารโบท็อกซ์ปลอมซ้ำ ๆ มีโอกาสทำให้ดื้อยาและผลที่ตามมาคือเมื่อกลับไปฉีดของแท้ซึ่งเป็นสารโปรตีนบริสุทธิ์ที่มีมาตรฐานในครั้งต่อไปอาจไม่ได้ผลแล้ว ไม่ว่าจะฉีดตัวยาเหล่านี้เข้าไปด้วยความเห็นแก่ของถูกหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ผลที่ได้ อาจร้ายแรงกว่าที่คุณคิด ขนาดที่ว่าหน้าที่เคยสวยอยู่แล้วกลับกลายเป็นเสีย และต้องใช้เวลานานในการรอให้ใบหน้าคืนสู่สภาพเดิม หรือในเคสที่ร้ายแรงกว่านั้น คือไม่สามารถแก้ไขให้กลับมาดีได้อีก ดังนั้น จึงควรเลือกรับบริการในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

โบท็อกซ์คุณภาพที่คุณวางใจได้

คลินิกความงามคุณภาพจะเลือกใช้โบท็อกซ์ สองยี่ห้อ ที่ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพสูง  มีความปลอดภัย และ ได้ผลดีในการรักษา คือ (BOTOX®) จาก อัลเลอร์แกน (Allergan) ผลิตในสหรัฐอเมริกา  เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย โดยใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านกล้ามเนื้อและเส้นประสาทในประเทศอเมริกา และอีกกว่า 100 ประเทศทั่วโลกยังนิยมนำมาใช้ในวงการความงาม ยืนยันได้ถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพจากการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) มานานกว่า 16 ปี  รวมทั้งยังได้รับการรับรองเรื่องความปลอดภัยจากหน่วยงานองค์การอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข  (อ.ย.) ประเทศไทย มาเป็นเวลากว่า 10 ปี  อีกยี่ห้อของโบท็อกซ์คือ นิวโรน็อกซ์ (Neronox) ผลิตในประเทศเกาหลี ได้รับความนิยมในหมู่ดารา นักแสดง เกาหลี ซึ่งมักนำมาใช้เพื่อลดริ้วรอย และปรับรูปหน้าเรียว ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาด้วยเช่นกัน จึงมั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัย

โบทูลินัมท็อกซิน ที่ผ่าน อ.ย. ในประเทศไทยจะต้องอยู่ในรูปแบบผงที่บรรจุในขวดสุญญากาศ และเมื่อนำมาใช้ จะต้องทำการผสมให้เป็นของเหลวในขวดสุญญากาศเท่านั้น (vacuum-dried vial)  อ.ย. ไม่รับรองโบทูลินัมท็อกซิน ที่เป็นลักษณะผงแป้งที่ไม่ได้บรรจุอยู่ในขวดสุญญากาศ ดังนั้นหากเห็นการผสมผงแป้งภายนอกหลอดสุญญากาศ นั่นคือสารที่ไม่ได้ผ่านการรับรอง และเป็นการลักลอบนำเข้ามาใช้แบบผิดกฎหมายค่ะ


เติมเต็มริ้วรอย เติมเต็มความสวยด้วยฟิลเลอร์

ตัวเลขของอายุที่เพิ่มมากขึ้นในทุกวันทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่น ความหย่อนคล้อยบนใบหน้า ทั้งริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา รอยตีนกา ร่องแก้มที่ดูจะลึกขึ้นเรื่อยๆ หรือรอยย่นบนหน้าผากที่เด่นชัดขึ้น วิทยาการความก้าวหน้าด้านความงามในปัจจุบันได้พัฒนารูปแบบของการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ออกมาในรูปของสารที่ฉีดเข้าไปเติมเต็มริ้วรอยเหล่านี้ให้ดูเต่งตึงมากขึ้น นั่นคือ ฟิลเลอร์

นอกจากการแก้ไขปัญหารอยเหี่ยวย่น ฟิลเลอร์ยังสามารถเอามาใช้ฉีดเพื่อเพิ่มความอิ่มเอิบ เสริมความโดดเด่นของจุดต่างๆ บนใบหน้าได้อีก เช่น เสริมคางให้สวย เสริมริมฝีปากให้อวบอิ่ม เสริมจมูกให้โดดเด้ง แม้แต่เสริมหลังมือก็ยังทำได้

ฟิลเลอร์ (Filler)

เป็นสารเติมเต็มที่ฉีดเข้าสู่ชั้นผิวหนังเพื่อเติมเต็มร่องลึกหรือริ้วรอยต่างๆ โดยฟิลเลอร์นั้นเป็น Hyaluronic Acid (ไฮยารูโลนิค แอซิด – HA) ซึ่งเป็นสารประกอบของคอลลาเจนที่มีอยู่ในผิวหนังและผิวหน้า โดยคอลลาเจนนั้นจัดเป็นสารประเภทโปรตีนที่พบได้ในผิวหนังของเราอยู่แล้ว มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ รักษาความชุ่มชื่นให้กับผิว คอลลาเจนนี้เองที่มีส่วนช่วยสร้างความยืดหยุ่นเต่งตึงให้กับผิว เปรียบเหมือนกับสปริงที่อยู่ใต้ผิวหน้าของเรา ซึ่งพอเวลาผ่านไป อายุที่มากขึ้นจะทำให้คอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิวหน้าเสื่อมสภาพลง ผิวหนังของเราก็จะหดตัวลึกบุ๋มลง เกิดเป็นริ้วรอยต่างๆ การฉีดฟิลเลอร์จึงเสมือนเป็นการเสริมสปริงให้กับผิวหนังให้กลับมาเต่งตึงอีกครั้ง

การฉีดฟิลเลอร์

ต้องทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ มักจะมาร์คยาชาเฉพาะจุดบนใบหน้าก่อน (แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้รับการฉีด เพราะบางจุดอาจไม่ต้องมาร์คยาชาก็ได้) จากนั้นแพทย์จะทำการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในบริเวณที่ต้องการเติมเต็มริ้วรอยหรือเสริมรูปหน้า ซึ่งจะมีความเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยกระบวนการฉีดฟิลเลอร์จะใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับว่าฉีดมากน้อยแค่ไหน บางคนหลังฉีดแล้วอาจมีอาการเจ็บหรือบวมก็อย่าเพิ่งกังวลใจไป เพราะอาการเหล่านี้จะหายไปเองได้ใน 1-2 วัน แต่ต้องจำไว้ว่าหลังจากฉีดฟิลเลอร์แล้วต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับความร้อน เช่น การทำซาวน่า การทำเลเซอร์ ถ้าหากจะต้องโดนแดดก็ควรจะทาครีมกันแดดป้องกันก่อน

หลังฉีดฟิลเลอร์

จะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเด่นชัด คือริ้วรอยต่างๆ จะดูลดเลือนลง หรือส่วนที่ต้องการเสริมจะดูโดดเด่นขึ้น และจะยิ่งเห็นชัดมากขึ้นหลังผ่านไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ หลังฉีดสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ เช่น แต่งหน้า เล่นกีฬา แค่เพียงปฏิบัติตัวตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดก็เพียงพอแล้ว โดยผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์นั้นจะคงอยู่ใต้ผิวหนังของเราได้ประมาณ 9-12 เดือน

ผู้สนใจควรตรวจสอบ หาข้อมูล สักนิดก่อนคิดตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ โดยการฉีดฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยนั้นจะต้องทำในสถานที่ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน  และโดยแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ให้กับเรานั้นมีความสะอาด  ปลอดภัย  รวมทั้งสารที่จะนำมาใช้ฉีดนั้นมีความเหมาะสม  ตรงกับความต้องการ  ปลอดภัย  และมีคุณภาพ ไม่มีผลข้างเคียง

อย่าลืมว่าการฉีดฟิลเลอร์เป็นการนำสารซึ่งไม่ได้ถูกสร้างขึ้นในร่างกายของเราเองฉีดเข้าสู่ร่างกายโดยตรง จึงต้องพิจารณาถึงสิ่งที่กล่าวมาให้ครบถ้วน เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น จะสวยทั้งที ก็ควรเลือกที่ปลอดภัยด้วย โดยเฉพาะปัจจุบันนี้ถ้าเราติดตามข่าวอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับ “การจับกุมหมอกระเป๋าหรือหมอเถื่อน” ซึ่งเป็นบุคคลที่อ้างตัวเป็นแพทย์และรับฉีดสารให้ความงามต่างๆ ในราคาที่ถูกกว่า ซึ่งรวมถึงการฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้รับการรับรองมาตรฐาน หรืออาจเป็นฟิลเลอร์ปลอมที่เป็นสารอื่นๆ ซึ่งจะส่งผลเสียระยะยาวให้กับผู้ที่ได้รับการฉีดเอง เช่น เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง หรือรูปหน้าอาจบิดเบี้ยว หรือถ้าผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ให้กับเรานั้นเป็นผู้ที่ไม่มีความรู้หรือมีความเชี่ยวชาญที่เพียงพอ ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้กับเรามากยิ่งขึ้น เช่น ถ้าฉีดพลาดแล้วฟิลเลอร์เข้าไปสู่กระแสเลือด อาจไหลเวียนเข้าสู่สมองและทำให้เส้นเลือดในสมองแตกได้ หรือในบางรายอาจถึงขั้นตาบอดได้เลยทีเดียว

ถ้าอยากสวย มีผิวเต่งตึง อย่างมีคุณภาพและปลอดภัย
อย่าเห็นแก่ของราคาถูกอย่างเดียว เพราะผลที่ตามมานั้นอาจไม่คุ้มค่า
เราเป็นห่วงทั้งความสวยของคุณ….และตัวคุณ


ร้อยไหมที่ไหนดี ร้อยไหมทำหน้าเรียว กระชับ

ถึงจะเป็นเทคโนโลยีความงามล่าสุดสำหรับการยกกระชับและลดความหย่อนคล้อยที่นำมาใช้โดยทั่วกัน แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยทำ แค่ฟังชื่อว่า “ร้อยไหม” ก็รู้สึกว่าน่ากลัวเสียแล้ว ซึ่งความจริงการร้อยไหมด้วยวัสดุคุณภาพประเภท ‘ไหมละลาย’ และรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนั้น นอกจากแทบไม่รู้สึกเจ็บขณะทำการรักษา ยังให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ และมีความปลอดภัยอีกด้วย (ร้อยไหมที่ไหนดี)

สิ่งสำคัญในการเข้าโปรแกรมความงามใดๆก็คือข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องในเรื่องนั้นๆ ผมจึงคัดคำถามที่มักพบบ่อยมาฝากกันครับ

Q: ไหมสำหรับใช้ร้อยไหมเพื่อความงาม มีกี่ประเภท

A: ที่ใช้อยุ่ปัจจุบันมีสามประเภทครับ คือไหมแอปทอส ( Aptos)  ซึ่งมีลักษณะเป็นฟันปลา เป็นไหมชนิดไม่ละลาย หลังทำมักเป็นรอยช้ำนาน มีโอกาสทำให้ใบหน้าไม่สมดุลกัน  ต่อมาคือ ไหมทอง (Gold Lift) เป็นไหมไม่ละลาย ข้อเสียคือมีค่าใช้จ่ายสูงมากและต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ หลังทำมีอาการบวมช้ำและติดเชื้อง่าย ส่วนอีกประเภท คือ ไหม PDO ซึ่งเป็นไหมประเภทเดียวที่ นิติพลคลินิก เลือกใช้ เป็นไหมละลายประเภทเดียวกับที่ใช้เย็บหลอดเลือดหัวใจ มีความปลอดภัยสูง ไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ใดๆ

Q: Korea Silk Lift คืออะไรคะ สามารถช่วยยกกระชับใบหน้าได้จริงไหม มีความปลอดภัยแค่ไหน

A:  การร้อยไหมเทคนิคเกาหลี (Korea Silk Lift) ได้ผลคล้ายการผ่าตัดยกหน้า แต่มีผลข้างเคียงน้อย หรือแทบไม่มี  โดยกลไกการออกฤทธิ์ของไหม PDO จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนของเส้นเลือดและคอลลาเจนบริเวณใต้ผิว จึงทำให้เกิดการกระชับตัวของผิวพร้อมกับการสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้น  โครงสร้างผิวจะมีการสร้างผิวใหม่โดยมีเส้นเลือดชุดใหม่ช่วยซ่อมแซม ทำให้ดูตึงและมีสุขภาพผิวดี ในขณะที่ตัวไหมสามารถละลายไปได้เองในหกเดือนและโดยไม่มีตกค้าง  เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อผิวที่เต่งตึงแลดูอ่อนเยาว์ สามารถทำได้ทั้งใบหน้า  ไม่ว่าจะแก้ปัญหาคิ้วและหนังตาตก มุมปากตก แก้มหย่อนคล้อย ปัญหาคางสองชั้น ลำคอ มือ ตลอดจนลำตัว หน้าท้อง ทรวงอก ต้นขา สะโพก ยกบั้นท้าย เป็นต้น  เป็นวิธีที่ราคาไม่แพงจนเกินไป ทำครั้งเดียวเห็นผลชัดเจน ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ สามารถแต่งหน้า ไปเรียนหรือทำงานได้ตามปกติทันที

Q: การร้อยไหมเหมาะกับใคร ตอนนี้อายุ 27 ปี ค่ะ

A:  การร้อยไหมเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุมากและมีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อย  เพราะสามารถยกกระชับได้ตรงจุด  อย่างที่โบทอกซ์ หรือ ฟิลเลอร์ ไม่อาจจะแก้ไขได้หมด แต่แม้จะยังมีอายุไม่มากนัก การร้อยไหมก็สามารถนำมาใช้เพื่อประโยชน์ด้านความงามอื่นๆได้ เช่น ปรับหน้าให้ได้รูปเรียวสวยตามต้องการ ช่วยปรับรูปจมูก เพิ่มความคมชัดของแนวดั้งสันหรือปรับปลายจมูกให้เชิดขึ้น ปรับแนวสันกรามให้คมชัดขึ้น ลดไขมัน รอยย่นใต้คางอย่างได้ผล นอกจากนี้ยังช่วยกระชับรูขุมขน และทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นได้อีกด้วยครับ


อัลเธอราพี (ไฮฟู่) คืออะไร

HIFU ย่อมาจากภาษาอังกฤษ High Intensity Focus Ultrasound คือการนำคลื่นเสียงความถี่สูงที่สามารถปล่อยคลื่นเสียงออกโดยโฟกัสเป็นจุดๆ ตรงลึกถึงโครงสร้างเนื้อเยื่อชั้นใน ผลคือทำให้เกิดกระบวนการเสริมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ของร่างกาย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

กล่าวโดยละเอียดคือ อัลตราซาวด์ที่ถูกโฟกัสการปล่อยเฉพาะจุดนั้นมีพลังงานสูงพอที่จะทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนังระดับลึก เป็นนวัตกรรมเดียวที่นำมาใช้ดึงหน้า ด้วยพลังงานที่ลงลึกถึงชั้น SMAS เหนือกล้ามเนื้อชั้นเดียวกับที่ผ่าตัดดึงหน้า ทำให้เกิดการหดตัวที่ชั้น SMAS ขนาดเล็ก คล้ายการเย็บเนื้อ แต่ละเอียดกว่าร้อยไหม เกิดการสร้างใหม่ของผิวที่ยกกระชับดูอ่อนเยาว์ นอกจากผลลัพธ์ที่มองไม่เห็็นด้วยตาเปล่า อย่างกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวคงความอ่อนเยาว์ไว้

ผลลัพธ์นั้นอาจมีความแตกต่างไป โดยขึ้นอยู่กับคนไข้แต่ละคน อย่างไรก็ตาม กระบวนการสร้างใหม่ของเนื้อเยื่อผิวสามารถเริ่มขึ้นได้หลังการรักษาเพียงครั้งเดียวและเห็นผลอย่างชัดเจนเมื่อได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสองถึงสามเดือนขึ้นไป รวมถึงอาจได้ผลดียิ่งขึ้นเมื่อทำการรักษาควบคู่ไปการรักษาในโปรแกรมประเภทอื่นๆ

HIFU ย่อมาจากภาษาอังกฤษ High Intensity Focus Ultrasound คือการนำคลื่นเสียงความถี่สูงที่สามารถปล่อยคลื่นเสียงออกโดยโฟกัสเป็นจุดๆ ตรงลึกถึงโครงสร้างเนื้อเยื่อชั้นใน ผลคือทำให้เกิดกระบวนการเสริมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ของร่างกาย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

กล่าวโดยละเอียดคือ อัลตราซาวด์ที่ถูกโฟกัสการปล่อยเฉพาะจุดนั้นมีพลังงานสูงพอที่จะทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนังระดับลึก เป็นนวัตกรรมเดียวที่นำมาใช้ดึงหน้า ด้วยพลังงานที่ลงลึกถึงชั้น SMAS เหนือกล้ามเนื้อชั้นเดียวกับที่ผ่าตัดดึงหน้า ทำให้เกิดการหดตัวที่ชั้น SMAS ขนาดเล็ก คล้ายการเย็บเนื้อ แต่ละเอียดกว่าร้อยไหม เกิดการสร้างใหม่ของผิวที่ยกกระชับดูอ่อนเยาว์ นอกจากผลลัพธ์ที่มองไม่เห็็นด้วยตาเปล่า อย่างกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวคงความอ่อนเยาว์ไว้

ผลลัพธ์นั้นอาจมีความแตกต่างไป โดยขึ้นอยู่กับคนไข้แต่ละคน อย่างไรก็ตาม กระบวนการสร้างใหม่ของเนื้อเยื่อผิวสามารถเริ่มขึ้นได้หลังการรักษาเพียงครั้งเดียวและเห็นผลอย่างชัดเจนเมื่อได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสองถึงสามเดือนขึ้นไป รวมถึงอาจได้ผลดียิ่งขึ้นเมื่อทำการรักษาควบคู่ไปการรักษาในโปรแกรมประเภทอื่นๆ

จากงานวิจัยของ FDA พบว่า เก้าในสิบของผู้ป่วยสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลง เช่น  แนวคิ้วยกขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน เปลือกตาเบิกกว้างขึ้น ดวงตาจึงดูโตขึ้นอันเป็นผลจากความตึงกระชับ ภาพรวมบริเวณดวงตาจึงดูอ่อนเยาว์ลง  เช่นเดียวกับบริเวณอื่นของใบหน้ารวมถึงลำคอ ที่คนไข้จะรู้สึกได้ว่าความหย่อนคล้อยลดลง มีผิวที่แข็งแรงขึ้น พลังงานอัลตร้าซาวด์นี้ถูกใช้ในงานด้านเทคนิคการแพทย์มากว่า 50 ปี มีการยืนยันความปลอดภัยของนวัตกรรมนี้โดยผลวิจัยทางคลินิกมากมาย

ในการรักษา ควรรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี

ระยะเวลาการรักษาแต่ละครั้ง

ระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่รับการรักษา แต่โดยปกติแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 30 นาที การรักษาจะถูกออกแบบให้ตรงกับความต้องการของผู้รับการรักษาโดยจะต้องหารือกับผู้เชี่ยวชาญก่อนเป็นสำคัญ

ผลลัพธ์ที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หลังการรักษาเพียง 60 นาที

-ผิวกระชับดูอ่อนเยาว์

-ลดเลือนริ้วรอย ผิวดูเรียบเนียนขึ้น

-ลดความหย่อนยานบริเวณร่องแก้ม

– เพิ่มความคมชัดบริเวณแนวสันกราม

-แนวคิ้วดูยกขึ้น

-เพิ่มความกระชับบริเวณโหนกแก้ม

บทความโดย นิติพลคลินิก