เสริมคางที่ไหนดี รับรูปหน้าเสริมคางด้วยศัลยแพทย์

เสริมคาง เสริมคางที่ไหนดี เป็นอีกหนึ่งการศัลยกรรมเพื่อการปรับแต่งรูปใบหน้า เพราะขนาดของคางเป็นปัจจัยหนึ่งที่กำหนดมิติของใบหน้าส่วนล่าง ผู้ที่มีคางสั้น คางเล็ก คางไม่มีความนูน หรือคางร่นมาด้านหลัง ทำให้ใบหน้าดูกลม หน้าสั้น ส่วนกลางของใบหน้าดูกว้าง คอดูมีเนื้อเยอะ ซึ่งเป็นรูปลักษณ์ที่ไม่สวยงาม ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขโดยการเสริมคาง จะทำให้สามารถมองเห็นรูปคางได้อย่างชัดเจน ใบหน้าส่วนล่างก็จะดูมีมิติ และสมดุลสมบูรณ์ดี โดยการทำศัลยกรรมเสริมคางสามารถที่จะช่วยปรับแต่งรูปหน้าให้ดูดีขึ้นได้ เช่น รูปคางดูนูนขึ้น รูปคางกว้างขึ้น หรือทำให้รูปคางดูยาวขึ้น

โดยปกติใบหน้าของคนเราจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน

ส่วนที่ 1 คือ ส่วนบนคือส่วนของหน้าผาก
ส่วนที่ 2 คือ ส่วนกลางคือส่วนทั้งหมดที่อยู่ต่ำกว่าส่วนที่ 1 (หน้าผาก) และอยู่เหนือส่วนที่ 3 (จมูกลงมา)
ส่วนที่ 3 คือ ส่วนล่างคือส่วนที่อยู่ต่ำกว่าจมูกลงมา สำหรับผู้ที่มีใบหน้าสวยนั้น ใบหน้าที่ 3 ส่วนจะมีสัดส่วนที่เท่ากัน

การเสริมคางเหมาะกับใคร

การทำศัลยกรรมเสริมคางอาจจะไม่ดีเสมอไป สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องคางหลบหรือคางสั้น ผู้ที่เหมาะสมที่จะทำการศัลยกรรมเสริมคาง ยังต้องมีองค์ประกอบอย่างอื่นอีกด้วย เช่น

  1. การสบของฟัน ซึ่งมีความสำคัญมาก เพราะคางที่เล็กนั้น สาเหตุอาจจะมาจากที่กระดูกกรามที่เล็ก และถอยร่นไปด้านหลังมากผิดปกติ การคบเขี้ยวจึงมักจะมีปัญหาด้วย ดังนั้นการรักษาโดย การจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดเลื่อนกราม จึงอาจจะเป็นการรักษาที่ถูกต้องมากกว่า การที่จะเสริมคางอย่างเดียว เพราะอาจจะทำให้เพิ่มความผิดปกติยิ่งดูไม่สวยมากขึ้นไปอีกก็ได้
  2. กระดูกกรามและส่วนอื่นมีความผิดปกติ ด้วยหรือไม่ เช่น ขนาดของกระดูกกรามด้านหลัง มีการยื่นยาวผิดปกติ หรือไม่ บางครั้งอาจจะมีปัญหาเรื่องกรามเอียงเกิดขึ้น ก็ควรที่จะทำการรักษาก่อนการเสริมคาง มิฉะนั้นอาจจะทำให้อาการกรามเอียงเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
  3. ความเล็กใหญ่ของคาง เรื่องการเสริมคางนั้นก็มีข้อจำกัดด้วย ไม่ใช่ว่าจะเสริมคาง ขนาดเท่าใดก็ได้ ทั้งนี้เนื่องจากการเสริมคางที่ใหญ่เกินไป อาจจะเกิดมีปัญหาต่อผิวหนังและกระดูกคางได้ในระยะยาว และอีกทั้งผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นอีกมาก

ดังนั้นการเสริมคาง จึงเป็นการปรับเส้นโค้งของเค้าหน้าที่เหมาะสมลงตัว เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับใบหน้า มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้คางที่เล็ก หรือคางที่ถดถอยไปด้านหลังมากเกินไป ให้มีส่วนยื่นออกมาด้านหน้ามากขึ้น แต่ถ้าคิดจะเสริมคางต้องได้รับการตรวจดูสภาพของกราม โดยศัลยแพทย์เสียก่อนว่า มีการผิดปกติที่ส่วนไหนร่วมด้วยหรือไม่ จะไดแก้ไขหรือรักษาไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการศัลยกรรมเสริมคาง

  1. ไม่ต้องอดอาหาร เนื่องจากเป็นการผ่าตัดโดยใช้ยาชาเฉพาะที่เท่านั้น ไม่ต้องดมยาสลบ แต่ก็ไม่ควรทานจนอิ่มเกินไป ป้องกันอาการแน่นอึดอัดท้องระหว่างการผ่าตัด
  2. งดกลุ่มยาที่จะมีผลต่อการหยุดเลือด เช่น แอสไพริน อย่างน้อยสองสัปดาห์ก่อนการผ่าตัด หยุดรับประทานสมุนไพรวิตามินอาหารเสริมต่างๆ เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา เมล็ดองุ่น ใบแปะก๊วย โสม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองก่อนเข้ารับการผ่าตัดประมาณ 3-5 วัน เพราะอาจเป็นเหตุให้เลือดออกง่าย และออกมากกว่าปกติ
  3. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณใบหน้า ซึ่งถ้าหากการล้างหน้าไม่สะอาด อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
  4. แปรงฟันทำความสะอาดช่องปากให้พร้อมก่อนการผ่าตัด
  5. งดหรือเลิกสูบบุหรี่ อย่างน้อย 4 สัปดาห์ ก่อนและหลังผ่าตัด เพราะมีผลต่อการหายของแผล ทำให้แผลหายช้า เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  6. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในคืนก่อนผ่าตัด และ 1สัปดาห์หลังผ่าตัด
  7. แจ้งโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยารับประทาน ยาชา หรือยาสลบ ให้แพทย์ทราบ
  8. เตรียมภาวะจิตใจให้พร้อม ไม่ตื่นเต้นมากกว่าความเป็นจริง และควรรับทราบว่าหลังการผ่าตัดมีโอกาสเกิดรอยช้ำและการเปลี่ยนแปลง ซึ่งต้องใช้เวลาในการเข้าที่หรือความเคยชินกับภาพลักษณ์ใหม่

การดูแลตัวเองหลังเสริมคาง

  1. ประคบเย็นตรงคางให้บ่อยที่สุด นาน 2 วัน หรือ จนกว่าจะยุบบวม
  2. นอนศีรษะสูง 2 วัน สามารถนอนตะแคงศีรษะได้
  3. ระมัดระวังเวลายิ้มอย่ายิ้มกว้างมากในช่วงแรก
  4. สามารถใช้ลิปสติกได้ 1 อาทิตย์หลังผ่าตัด
  5. งดรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดจัดหรือแข็งมาก
  6. ดื่มน้ำโดยใช้หลอดและหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหรืออาหารที่ร้อนหรือเย็นเกินไป
  7. ผักผลไม้ที่นำมารับประทานควรล้างให้สะอาดไม่ควรกินปลาดิบหรือเนื้อที่ไม่สุกหรืออาหารที่มีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรคได้มาก
  8. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกฮอล์ใน 2 อาทิตย์แรกหลังการผ่าตัด
  9. งดการสูบบุหรี่ 3 อาทิตย์หลังการผ่าตัด
  10. ดื่มน้ำมากๆ
  11. บ้วนปากบ่อยๆ ด้วยน้ำเกลือหรือน้ำสะอาดหรือน้ำยาบ้วนปาก
  12. ทำกิจวัตรประจำวันที่ไม่หนักได้ตามปกติ งดออกกำลังกายหนัก 10 วัน
  13. ระวังการกระแทกบริเวณคางหรือนั่งค้ำดันคาง
  14. งดออกกำลังกายที่อาจต้องมีการปะทะเช่นฟุตบอล บาสเกตบอล แฮนด์บอลประมาณ 4 อาทิตย์
  15. สามารถเอาผ้าพันแผลออกได้ภายใน 1-5 วัน
  16. แพทย์จะนัดตรวจดูอาการในวันที่ 7 -10 วัน

ส่วนการฉีดเสริมคาง ที่ไม่ได้มาตรฐานเป็นอันตรายอย่างมาก อย่างเสี่ยง!!!!

การฉีดเสริมคาง มีคนมักจะถามบ่อย ๆเสมอว่า ดีไหมและได้ผลดีเพียงใด รวมทั้งปัจจุบันนี้ก็มีคน นำสารฉีดเสริมตัวใหม่ ๆมาเผยแพร่ในท้องตลาดมากมาย ความจริงเรื่องการฉีดด้วยสารต่าง ๆนั้น มีมาหลายปีแล้ว แต่ที่ยังนิยมไม่เลิก และไม่ยอมสูญพันธุ์ไปจากวงการเสียทีก็คือ การฉีดซิลิโคนเหลว โดยผู้ฉีดไม่ใช่หมอ โดยไม่รู้ที่มาที่ไป รวมทั้งเมื่อฉีดแล้วก็ก่อเกิดปัญหากับผู้ที่ถูกฉีดเสมอ แต่ก็ยังมีคนยังหลงเชื่อไปฉีดกันอยู่ทุกวันนี้ ขอแนะนำว่าอย่าไปทดลองฉีดโดยเด็ดขาด เพราะมีผู้เสียหายมามากแล้ว เพราะว่า สารซิลิโคนเหลว นั้น เมื่อฉีดไปแล้วจะเกิดการไหลย้อยไปที่ส่วนต่าง ๆภายใต้ผิวหนังได้ และที่สำคัญจะ ไม่ถูกย่อยสลาย ไป และในระยะยาวก็จะเกิดการอักเสบได้ ซึ่งบางท่านอาจจะเกิดผิวแดง ผิวแข็ง ๆหรือบางครั้งอาจจะแตกออกมานอกผิวหนังได้ และทั้งเจ็บ ทั้งปวด ทรมานสุด ๆ ส่วนการแก้ไขก็ต้องตัดเอาเนื้อของกล้ามเนื้อ และเอาสารซิลิโคนเหลวออก หรือเรียกว่า การขูดซิลิโคนเหลวออก ผลที่ตามมาคือคางเหี่ยว ปากเบี้ยว ปากเอียง ตามมา

ปรึกษาและนัดคิวทำศัลยกรรม
ศูนย์ศัลยกรรมนิติพลคลินิก
กรุงเทพฯ โทร 086-395-5394
เชียงใหม่ โทร 053-288-536

หมายเหตุ: ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล