รักษาหลุมสิวที่ไหนดี ช่วยกู้ผิวหน้าเรียบเนียนคืนมา

แผลเป็นสิว 4 แบบ ตามรูปร่าง

1.หลุมขอบราบ (ROLLING SCAR)

2.หลุมขอบคม (BOX SCAR)

3.รูลึกกว่าความกว้าง (ICE PICK SCAR)

4.แผลนูน (KELOID)

การรักษาหลุมสิว

* คลื่นวิทยุ Radio Frequency (RF) ส่งพลังงานความถี่สูงเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ให้ผลทั้งในด้านการรักษาหลุมสิวและยกกระชับผิวหน้า ได้ผลกับ Rolling Scar ที่ไม่รุนแรง ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งจนชดเชยปริมาณ Collagen ที่เสียไปได้

* Laser กระตุ้น Collagen กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเซลล์ผิวใหม่เหมือน RF ได้ผลกับ Rolling Scar ที่ไม่รุนแรง ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งจนชดเชยปริมาณ Collagen ที่เสียไปได้

* การทำ Subcision ใช้เข็มสอดใต้หลุมสิวตัดพังผืด เกิดการฟื้นฟูและสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ หลุมสิวตื้นขึ้น วิธีนี้ทำให้หลุมมีเลือดออก เหมาะกับหลุมใหญ่ๆ ทำได้ครั้งละ 5-10 หลุม มิให้น่าเกลียดเกินไป

* Mini Scar และ Mini Subcision ใช้เครื่องมือเข็มขนาดเล็ก สะกิดหลุมให้สร้างคอลลาเจน โดยไม่เกิดบาดแผลแบบ Subcision และเข็มจะเจาะผิวตามหลุมเท่านั้ร ไม่เจาะผิวดีๆทั่วหน้าแบบ Derma Roller หรือ Fractional Laser เหมาะกับหลุมทุกแบบทั้ง Rolling, Box, Ice pick ที่มีขนาดเล็ก ทำทุก 2-4 สัปดาห์/ครั้ง จนกว่าจะพอใจ

* Filler ฉีดเติมหลุม และเนื้อแก้มให้อิ่มตึง เพื่อดึงให้หลุมตึงขึ้น ใช้ 2-3 cc. จึงครอบคลุมแก้ม 2 ข้างได้

Minisubcision, Mini scar

            ช่วยกระตุ้นผิวที่เป็นหลุมให้เต็ม เน้นรอยหลุมได้เฉพาะเจาะจงกว่า Dermaroller แบบเดิมๆ ไม่ทำให้ผิวช้ำระบม หน้าแดงน้อยกว่า เจ็บน้อยกว่า แต่ได้ผลเร็วกว่ามาก เร่งการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ สร้างคอลลาเจนใหม่ หลังทำผิวหน้าอาจแดงเล็กน้อยเพียง 2-3 วันก็จะหายเป็นปกติ แนะนำทำ 2 สัปดาห์/ครั้ง

กลไกการรักษา

          เข็มจะกระตุ้น Growth factors หลายชนิด ( PGF,TGF,FGF) ให้ทำงานสร้าง Fibroblast และ Collagen ใต้หลุม โดยไม่รบกวนเนื้อผิวหน้าจุดที่ไม่มีหลุม